ดูรายละเอียด
หมายเหตุ :
-
ราคานี้ ไม่รวมค่าแพทย์ และค่าบริการโรงพยาบาล
-
ในกรณีที่ลูกค้ามีการรับบริการเพิ่มเติมนอกเหนือจากในโปรแกรมดังกล่าว ลูกค้าจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
-
เนื่องจากสินค้าและบริการเป็น โปรแกรมตรวจสุขภาพ จึงไม่สามารถยกเลิกหรือขอคืนเงินเป็นบางส่วนของสินค้าได้
-
ไม่สามารถคืนเงินได้ในกรณีที่มาใช้บริการแล้ว
-
ไม่สามารถออกใบเสร็จของทางโรงพยาบาลสมิติเวชได้ จนกว่าจะมาเข้ารับบริการ
-
ราคาดังกล่าวขอสงวนสิทธิ์สำหรับชาวไทยและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยเท่านั้น
-
ระยะเวลาโปรโมชั่น วันนี้ถึง 30 มิถุนายน 2567 โดยสามารถใช้สิทธิ์ได้ถึง 30 มิถุนายน 2567
-
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และเข้ารับบริการได้ที่ ศูนย์วัคซีน หรือศูนย์สุขภาพสตรี สมิติเวช สุขุมวิท
-
สำรองการเข้าใช้บริการล่วงหน้า 1-2 วัน ผ่าน Inbox Facebook " Samitivej Club"
ทำไมต้องฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก
มะเร็งปากมดลูกส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส HPV (Human Papillomavirus) ที่สามารถติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือติดต่อทางการสัมผัส ซึ่งการฉีดวัคซีน HPV หรือวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ช่วยป้องกันไวรัส HPV 2 สายพันธุ์หลักคือ สายพันธุ์ที่ 16 และ 18 ที่เป็นต้นเหตุของการเกิดมะเร็งปากมดลูก 70% โดยการฉีดวัคซีนป้องกันตั้งแต่ตอนที่ยังไม่มีการสัมผัสเชื้อสองตัวนี้ ถือว่าเป็นเวลาที่ดีที่สุดผู้หญิงอายุ 9-26 ปี ควรฉีดวัคซีน HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูก
คุณสามารถฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ได้ตั้งแต่อายุ 9 ปี – 26 ปี โดยฉีดจำนวน 3 เข็ม ซึ่งวัคซีนช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้ถึง 70 % และงานวิจัยยังชี้ว่าการฉีดวัคซีนจะช่วยป้องกันไวรัส HPV ได้เป็นเวลาอย่างน้อย 10 ปี
-
เด็กผู้หญิง อายุ 9-15 ปี : สามารถฉีดวัคซีน HPV ได้ตั้งแต่อายุ 9 ปี โดยสำหรับเด็กไม่จำเป็นต้องฉีด 3 เข็มเหมือนผู้ใหญ่ ถ้าเด็กอายุน้อยกว่า 15 ปี สามารถฉีดวัคซีนแค่ 2 เข็มก็จะมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสมะเร็งปากมดลูก
-
ผู้ที่มีอายุ 15– 26 ปี : สำหรับเด็กที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน HPV ก่อนอายุ 15 ปี สามารถรับการฉีดวัคซีนได้จนถึงอายุ 26 ปี โดยจะได้รับวัคซีนจำนวน 3 เข็ม
ถ้าอายุเกิน 26 ปี ฉีดวัคซีน HPV ได้หรือไม่
สำหรับวัยผู้ใหญ่อายุ 27-45 ปี ที่ไม่เคยฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกมาก่อน ควรปรึกษาแพทย์ ว่าคุณควรฉีดวัคซีน HPV หรือไม่ และเพื่อตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกต่อไป
เคยฉีดวัคซีน HPV ไปแล้ว ยังต้องตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกหรือไม่
ควรตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วย เนื่องจากการฉีดวัคซีน HPV กับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกนั้น มีจุดประสงค์ไม่เหมือนกัน ผู้หญิงอายุ 21 ปีจนถึง 65 ปีควรตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทุกๆ 3 ปี โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ควรตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธีการดังนี้
-
การตรวจแปปสเมียร์ (Pap Smear หรือ Pap Test)
-
การตรวจแบบ Thin Prep
-
การตรวจหาเชื้อไวรัส HPV ที่เรียกว่า HPV Test หรือ HPV DNA
-
การตรวจหาเชื้อไวรัส HPV จากปัสสาวะ