ดูรายละเอียด
โปรแกรมตรวจเช็กความพร้อมของร่างกายสำหรับนักวิ่ง Fit for Life
ทำไมต้องตรวจสุขภาพก่อนเริ่ม "วิ่ง" หรือออกกำลังกาย
ปัจจุบันการวิ่งเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมสูง ที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง กระตุ้นระบบหัวใจและหลอดเลือด และยังช่วยคลายเครียดได้เป็นอย่างดี แต่ก่อนที่จะออกสตาร์ท หรือวางแผนเข้าร่วมการแข่งขัน การตรวจสุขภาพอย่างละเอียดถือเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่าร่างกายมีความพร้อม ปลอดภัย และสามารถพัฒนาศักยภาพได้สูงสุด
การตรวจเช็กความพร้อมของร่างกายมีข้อดี
1. ป้องกันความเสี่ยง "หัวใจวายเฉียบพลัน" (Sudden Cardiac Arrest)
การออกกำลังกายที่หนักเกินขีดจำกัด อาจกระตุ้นให้เกิด ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะเฉียบพลัน ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตกะทันหันที่พบบ่อยในกลุ่มนักกีฬาและผู้ที่ออกกำลังกายหนัก ในโรคหัวใจบางชนิดที่ไม่มีอาการแสดงและไม่สามารถตรวจพบได้จากการตรวจสุขภาพทั่วไป ดังนั้นการตรวจเฉพาะทางจะช่วยลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตโดยไม่มีสัญญาณเตือน เมื่อต้องออกแรงหนักในสนามจริง
2. รู้จักขีดจำกัดและศักยภาพของตัวเอง
ร่างกายจะทำงานหนักกว่าตอนซ้อมเสมอเมื่ออยู่ภายใต้ความตื่นเต้นและความกดดันของการแข่งขัน การตรวจจะช่วยประเมินศักยภาพสูงสุด เพื่อให้คุณวางแผนซ้อมและทำให้คุณวิ่งได้อย่างมั่นใจ
3. ลดความเสี่ยงปัญหาสุขภาพระยะยาว
การตรวจสุขภาพเชิงลึกจะช่วยคัดกรองปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งานซ้ำ ๆ เพื่อให้คุณสามารถป้องกันและแก้ไขก่อนที่จะสายเกินไป
ซ้อมเพื่อความเร็ว ตรวจเพื่อความปลอดภัย
สองสิ่งนี้ไปด้วยกันเสมอ ถ้าอยากถึงเส้นชัยอย่างมั่นใจ เริ่มจากการรู้จักร่างกายของตัวเองก่อน
เป้าหมายของการวิ่ง ไม่ใช่แค่ “ถึงเส้นชัย” แต่คือการได้วิ่งด้วยความสุขและมั่นใจในทุกก้าว
อาการหรือภาวะที่พบบ่อยในกลุ่มนักวิ่ง
- ภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก (Iron Deficiency Anemia) มักพบในเพศหญิง ที่ซ้อมหนักจนอาจทำให้สูญเสียธาตุเหล็กผ่านเหงื่อหรือการแตกตัวของเม็ดเลือดแดงจากการกระแทก (Foot Strike Hemolysis) ทำให้รู้สึกเหนื่อยง่าย ฟอร์มตก
- ภาวะขาดวิตามินดี และแคลเซียม มักเกิดจากที่ร่างกายได้รับวิตามินดีและแคลเซียมไม่เพียงพอ จะเพิ่มความเสี่ยงต่อ Stress Fracture และปัญหาความแข็งแรงของกระดูก
- ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน (Sudden Cardiac Arrest) คือ ภาวะที่หัวใจทำงานผิดปกติ จนทำให้หัวใจบีบตัวแบบไม่มีประสิทธิภาพหรือไม่บีบตัว หรือหยุดเต้นโดยไม่มีอาการเตือนล่วงหน้า ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนโดยไม่จำเป็นต้องมีโรคประจำตัวอื่นๆ มาก่อน ภาวะนี้ส่งผลให้หัวใจไม่สามารถส่งเลือดไปเลี้ยงตามส่วนต่างๆ ของร่างกายได้เพียงพอ จึงทำให้เกิดอาการเป็นลม หมดสติ และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ สามารถตรวจคัดกรอกความเสี่ยงได้โดยการสมรรถภาพหัวใจขณะออกกำลังกาย (EST / Stress Test) หรือ VO2 Max
โปรแกรมตรวจเช็กความพร้อมร่างกายสำหรับนักวิ่งนี้ ครอบคลุมตั้งแต่การตรวจสมรรถภาพ ไปจนถึงการประเมินสุขภาพในระดับเซลล์ รายละเอียดโปรแกรม มีดังนี้
1. Sport Orthopedic & Physical Fitness
- การประเมินระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ (Sport Orthopedic) ช่วยตรวจหาความผิดปกติหรือความเสี่ยงของการบาดเจ็บจากการวิ่ง เช่น ข้อเข่า ข้อเท้า หรือกล้ามเนื้อ
- การทดสอบสมรรถภาพร่างกาย (Physical Fitness Test) เพื่อประเมินความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และความฟิตโดยรวม
- VO₂ Max ตรวจวัดความสามารถของหัวใจ ปอด และระบบไหลเวียนเลือดในการลำเลียงออกซิเจนไปใช้กับกล้ามเนื้อ ใช้เป็นข้อมูลสำคัญในการวางแผนฝึกซ้อม
2. Vitamin & Free Radicals ตรวจระดับวิตามิน และอนุมูลอิสระ
การวิ่งระยะไกลอาจทำให้ร่างกายเกิด ความเครียดออกซิเดชัน (Oxidative Stress) ได้ง่าย การตรวจวิตามินและอนุมูลอิสระจึงช่วยให้รู้สถานะการฟื้นตัวและภูมิคุ้มกัน
- ตรวจระดับวิตามินดีในเลือด Vitamin D Total เนื่องจากสำคัญต่อกระดูกและกล้ามเนื้อ
- ตรวจระดับอนุมูลอิสระ Free Radical Total (d-ROMs Test)
- ประเมินประสิทธิภาพของร่างกายในการต่อต้านอนุมูลอิสระ PAT Test
3. โปรแกรมวิเคราะห์สมดุลการเผาผลาญ (Urine Organic Acid Profile)
ตรวจในระดับเซลล์ด้วยปัสสาวะ เพื่อดูการทำงานของระบบเผาผลาญ พลังงาน และการล้างสารพิษ เหมาะสำหรับนักวิ่งที่มีอาการเช่น อ่อนเพลียง่าย พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือระบบขับถ่ายไม่สมดุล
4. ตรวจระดับฮอร์โมน Hormone Profile
ฮอร์โมนมีบทบาทสำคัญต่อพลังงานและความทนทานของนักกีฬา
- ตรวจสมดุลต่อมไทรอยด์ TSH, T4, Free T4, Free T3
- ตรวจฮอร์โมนจากต่อมหมวกไตที่เกี่ยวข้องกับความเครียดและพลังงาน DHEAS
- ตรวจฮอร์โมนที่มีความสำคัญต่อ พลังงาน ความทนทาน และการฟื้นตัว ของนักกีฬา Cortisol
5. ตรวจการทำงานของตับ และไต
เนื่องจากการวิ่งระยะไกลอาจส่งผลต่อการทำงานของอวัยวะภายใน การตรวจตับและไต จึงช่วยให้มั่นใจว่าร่างกายสามารถเผาผลาญและกำจัดของเสียได้อย่างเหมาะสม
Liver & Kidney Function Test (การทำงานของตับ)
- SGOT (AST)
- SGPT (ALT)
KIDNEY FUNCTION TEST (การทำงานของไต)
- Creatinine (plus GFR)
- Blood Urea Nitrogen (BUN)
6. การตรวจพื้นฐานที่นักวิ่งไม่ควรพลาด Basic Health Check
- ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด Complete Blood Count (CBC)
- ระดับน้ำตาลในเลือด Fasting Blood Sugar (FBS)
- ตรวจวัดระดับไขมันรวมในเลือด Total Cholesterol
- ตรวจวัดระดับไขมันในเลือด Triglyceride
- ตรวจวัดระดับไขมันเลวในเลือด LDL - Cholesterol
- ตรวจวัดระดับไขมันดีในเลือด HDL - Cholesterol
- โปรตีนตอบสนองต่อการอักเสบซ่อนเร้น C-Reactive Protein
- ตรวจองค์ประกอบของร่างกาย Body Composition Analysis
- เอกซเรย์ปอด Chest X-RAY
- ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ Electrocardiogram (EKG)
- อัลตร้าซาวน์ช่องท้องส่วนบน Ultrasound Upper Abdomen
เหมาะสำหรับใคร
- นักวิ่งที่ต้องการพัฒนาสมรรถภาพและทำเวลาให้ดีขึ้น
- ผู้ที่กำลังจะเข้าร่วมการแข่งขันมาราธอนหรือวิ่งระยะไกล
- ผู้ที่มีอาการอ่อนเพลียง่าย หรือเคยบาดเจ็บจากการวิ่ง
- ผู้ที่ต้องการตรวจสุขภาพเชิงลึกเพื่อวางแผนการออกกำลังกาย
- ผู้ที่ต้องการ ออกกำลังกาย เล่นกีฬา หรือฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย
- ผู้ที่อยากตรวจความพร้อมของร่างกายก่อนเริ่มออกกำลังกายอย่างจริงจัง
การเตรียมตัว
- งดน้ำและอาหาร 6–8 ชั่วโมง ก่อนเข้ารับการตรวจ
- พักผ่อนให้เพียงพอ 1 คืนก่อนมาตรวจ
- เตรียมประวัติการรักษา ยา หรืออาหารเสริมที่รับประทานประจำเพื่อแจ้งแพทย์
ทั้งนี้ หากท่านมี Smartwatch สามารถนำข้อมูลมาปรึกษาแพทย์ชำนาญการโรคหัวใจ แพทย์ชำนาญการการนอน รวมทั้งปรึกษาเพื่อเตรียมพร้อมก่อนวิ่ง (มูลค่า 1,420 บาท) โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพียงแจ้งความประสงค์หลังจากการจองแพ็กเกจ Fit for Life
เงื่อนไขการเข้ารับบริการ Samitivej Smart Wearable Consultation:
- ปรึกษาไม่มีค่าใช้จ่าย เฉพาะแพทย์ในโครงการ
- กรุณาทำนัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้ารับการปรึกษา
- สงวนสิทธิ์เฉพาะท่านที่มี Smartwatch
- ใช้บริการที่โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท เท่านั้น
- สิทธิ์การปรึกษาไม่มีค่าใช้จ่าย ใช้ได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2568
หมายเหตุ:
- ราคาดังกล่าวรวมค่าแพทย์ และค่าบริการโรงพยาบาลฯ
- รับบริการได้ที่ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท เท่านั้น
- ศูนย์กระดูก ข้อ กระดูกสันหลังและการแพทย์กีฬา อาคาร 1 ชั้น 1
- ศูนย์สุขภาพดีส่วนบุคคลสมิติเวช อาคาร 2 ชั้น